วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2554

วงมโหรี

วงมโหรี
ในสมัยโบราณเป็นคำเรียกการบรรเลงโดยทั่วไป เช่น "มโหรีเครื่องสาย" "มโหรีปี่พาทย์" ในปัจจุบัน มโหรี ใช้เป็นชื่อเรียกเฉพาะวงบรรเลงอย่างหนึ่งอย่างใดที่มีเครื่อง ดีด สี ตี เป่า มาบรรเลงรวมกันหมด ฉะนั้นวงมโหรีก็คือวงเครื่องสาย และวงปี่พาทย์ ผสมกัน วงมโหรีแบ่งเป็น วงมโหรีเครื่องสี่,วงมโหรีเครื่องหก,วงมโหรีเครื่องเดี่ยว หรือ มโหรีเครื่องเล็ก,วงมโหรีเครื่องคู่ เป็นต้น

วงมโหรีเครื่องสี่



         วงมโหรีเครื่องสี เกิดจากการการประสมกันระหว่างการบรรเลงพิณและการขับไม้ ปรากฏครั้งแรกในสมัยอยุธยา มีเครื่องดนตรี 4 ชนิดดังนี้
  • โทน
  • ซอสามสาย
  • กระจับปี่
  • กรับพวง (ผู้ขับร้องเป็นผู้ตี)

วงมโหรีเครื่องหก



วงมโหรีเครื่องหก ลักษณะคล้ายวงมโหรีเครื่องสี่ แต่ได้เพิ่มเครื่องดนตรีอีกสองอย่างคือ รำมะนาและขลุ่ยเพียงออ

วงมโหรีเครื่องเดี่ยว



วงมโหรีเครื่องเดี่ยว เกิดขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ในระยะแรกเพิ่มระนาดเอกและฆ้องวงใหญ่ ในระยะหลังได้เพิ่มซอด้วงและซออู้ เปลี่ยนกระจับปี่เป็นจะเข้

วงมโหรีเครื่องเล็ก

วงมโหรีเครื่องเล็ก  คือวงปี่พาทย์เครื่องห้าประสมกับวงเครื่องสายวงเล็ก ประกอบด้วย ดังนี้
                  1.  ซอสามสาย                  
                  2.  ซอด้วง                
                  3.  ซออู้                 
                  4.  จะเข้                 
                  5.  ขลุ่ยเพียงออ              
                  6.  ระนาดเอก  ( ย่อขนาด )         
                  7.  ฆ้องกลาง หรือ ฆ้องมโหรี       
                  8.  โทน               
                  9.  รัมนา                 
                10.  ฉิ่ง                     

วงมโหรีเครื่องคู่



วงมโหรีเครื่องคู้ เหมือนกับวงมโหรีเครื่องเล็ก แต่ได้เพิ่มระนาดทุ้ม ฆ้องวงเล็ก ขลุ่ยหลิบ ซอด้วง ซออู้ จะเข้ และซอสามสายหลิบอย่างละหนึ่ง

ขอขอบคุณที่มาจาก  www.google.co.th
                    www.wikipedia.org
                   http://guru.sanook.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น